ทีโมเชนโก้ นักวิชาการ และ เป็นวิศวกร ในช่วงศตวรรษที่ 19

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน

วันนี้บุคคลคนที่สี่ที่ผมนำประวัติของท่านมาเล่าสู่กันฟังกับเพื่อนๆ นั้นเป็นผู้รู้ เป็นนักวิชาการ และ เป็นวิศวกร ที่เก่งมากอีกท่านหนึ่งในช่วงศตวรรษที่ 19 เลยก็ว่าได้ครับ ผมชื่นชอบในผลงานของบุคคลท่านนี้เป็นอย่างมาก โดยที่บุคคลท่านนี้ก็คือ สตีเฟ่น โพรโคโพวิช ทีโมเชนโก้ ซึ่งผมจะขอเรียกชื่อของท่านสั้นๆ ว่า ทีโมเชนโก้ ละกันนะครับ

ทีโมเชนโก้ เกิดในยูเครนในปี คศ 1878 ท่านได้เข้าศึกษาในระดับก่อนอุดมศึกษาในโรงเรียนที่รัสเซียตั้งแต่ในปี คศ 1889 ถึง 1896 และ ศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กจนสำเร็จการศึกษาในปี คศ 1901 หลังจากนั้นท่านยังดำเนินการสอนที่นั่นเรื่อยมา ซึ่งในชีวิตของท่านต้องเดินทางไปเดินทางมาเพื่อที่จะดำเนินการสอนของท่านในหลากหลายมหาวิทยาลัยด้วยกันนะครับ

เมื่อมาถึงปี คศ 1906 ถึง 1911 ท่านได้ก้าวมาถึงจุดสำคัญในชีวิตของท่าน คือ ท่านได้ดำรงค์ตำแหน่งศาสตราจารย์ ณ สถาบันโพลีเทคนิคเดิมที่ท่านเคยทำงานวิจัยอยู่ก่อนหน้านี้ และ ได้คิดค้นทฤษฎีที่มีความสำคัญขึ้นมาหนึ่งทฤษฎีที่ใช้ในกระบวนการ FINITE ELEMENT METHOD สำหรับโครงสร้างที่มีความเป็นช่วงเส้นนั่นก็คือ RAYLEIGH METHOD และ ท่านยังคงดำเนินการศึกษาเกี่ยวเนื่องกับทฤษฎีท่ว่าด้วยเรื่องการโก่งเดาะ (BUCKLING) ของโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง
จนในที่สุดท่านได้ตีพิมพ์ชุดหนังสือที่ถือว่ามีชื่อเสียงของท่านออกมาชุดหนึ่ง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องทางด้าน กำลังของวัสดุ (STRENGTH OF MATERIALS) นั่นเอง และ ในปี คศ 1909 ท่านยังได้รับเลือกให้เป็นคณะบดีของแผนกวิศวกรรมโครงสร้างของมหาวิทยาลัยอีกด้วย

ท่านยังได้รับรางวัลต่างๆ มากมายที่ยืนยันได้ถึงความรู้และความสำเร็จในงานวิจัยของท่านอย่างตลอดต่อเนื่องตลอดหลายปีในชีวิตของท่าน ท่านยังได้เขียนตำรามากมายที่เกี่ยวข้องกับ ทฤษฎีความเป็นเชิงเส้น (THEORY OF ELASTICITY) ทฤษฎีการเสียรูปของโครงสร้างคาน (THEORY OF BEAM DEFLECTION) จนในที่สุดก็มีการตั้งชื่อประเภทของคานชนิดหนึ่งตามชื่อของท่าน ซึ่งก็คือ คานแบบทีโมเชนโก้ (TIMOSHENKO BEAM) นั่นเอง สำคัญกว่านั้นคือถึงแม้ท่านจะมีความรู้มากมายเพียงใด ท่านยังคงดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีเรื่องการโก่งเดาะอย่างตลอดต่อเนื่องต่อมาอีกหลายปีจนเรียกได้ว่าท่านเป็นเจ้าพ่อแห่งวิชาการว่าด้วยเรื่องการโก่งเดาะก็ว่าได้ ซึ่งตำราที่มีชื่อเสียงของท่านอีกเล่มหนึ่งก็คือ ทฤษฎีว่าด้วยเสถียรภาพของโครงสร้างในช่วงเชิงเส้น (THEORY OF ELASTIC STABILITY)

เนื่องจากในช่วงชีวิตจของท่านๆ ต้องเผชิญกับยุคสงครามเย็นและเป็นยุคที่สหภาพโซเวียตกำลังจะล่มสลาย จึงเป้นเหตุให้ท่านและครอบครัวต้องอพยพไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี คศ 1922 และ ต่อมาท่านก็ได้ดำรงค์ตำแหน่งเป็นถึงศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งท่านได้เป็นคนก่อตั้งหลักสูตรปริญญาตรีและปริญญเอกหลักสูตรแรกขึ้นมาในสาขาทางด้านวิศวกรรมกลศาสตร์ ในชีวิตของท่านยังได้ดำรงค์ตำแหน่งที่สำคัญต่างๆ มากมายในมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา

ผลงานของท่านยังมีอีกมากมาย หนังสือและตำราที่ท่านเขียนถูกแปลออกไปเป็นจำนวนอย่างน้อย 36 ภาษา ซึ่งในช่วงแรกในชีวิตของท่านๆ มักจะแต่งตำราต่างๆ เป้นภาษารัสเซีย ซึ่งต่อมาเมื่อท่านย้ายมาพำนักอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาท่านก็ได้เปลี่ยนมาทำการแต่งตำราต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษแทน

ในช่วงบั้นปลายของชีวิตของท่าน ซึ่งก็คือในปี คศ 1960 ท่านได้ย้ายมาพำนักอยู่ในประเทศเยอรมนีกับลูกสาวของท่าน และ ท่านได้เสียชีวิตลงในปี คศ 1972 ในประเทศเยอรมัน แต่ เถ้ากระดูกของท่านนั้นได้ถูกฝังอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา นั่นเองครับ

ผมต้องขอคารวะในความอุตสาหะและความรู้ที่ท่านได้คิดค้นขึ้นมา เพื่อที่พวกเราทุกๆ คนจะได้นำไปใช้ และ พัฒนาต่อยอดกันไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ

หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ผมได้นำมาฝากแก่เพื่อนๆ ทุกๆ ท่านในวันนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อย และ จนกว่าจะพบกันใหม่นะครับ

ADMIN JAMES DEAN