การออกแบบงานวิศวกรรมโครงสร้าง เหล็กรูปพรรณ

การออกแบบงานวิศวกรรมโครงสร้าง เหล็กรูปพรรณ (STRUCTURAL STEEL ENGINEERING DESIGN หรือ SSE)

micropile spunmicropile เสาเข็มไมโครไพล์ ไมโครไพล์ สปันไมโครไพล์ spun micropile 16-03

หัวข้อในวันนี้จะเกี่ยวข้องกันกับหัวข้อ การออกแบบงานวิศวกรรมโครงสร้าง เหล็กรูปพรรณ (STRUCTURAL STEEL ENGINEERING DESIGN หรือ SSE) นะครับ

เนื่องจากที่ผ่านมานั้นผมเคยได้แชร์ความรู้รวมไปถึงได้เคยทำการอธิบายให้เพื่อนๆ ได้ทราบถึงเรื่อง โครงถัก กันไปบ้างแล้ว ในวันนี้ผมจึงอยากที่จะขออนุญาตนำเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาฝากเพื่อนๆ อีกสักเรื่องหนึ่ง โดยที่ผมจะมาทำการอธิบายเพิ่มเติมให้เพื่อนๆ ได้ทราบถึง รูปแบบของโครงถัก ในระบบ 2 มิติ (2D TRUSS) ที่เรามักที่จะนิยมนำมาใช้งานกันโดยทั่วๆ ไปให้แก่เพื่อนๆ ได้รับทราบกันนะครับ

จริงๆ แล้วโครงถักนั้นหลากหลายรูปแบบเลยนะครับ แต่ รูปแบบของโครงถักที่เรามักนิยมนำมาใช้งานเป็นโครงหลังคาในบ้านของเรามีดังนี้นะครับ

(A) โครงถักแบบโฮว์
โครงถักแบบนี้จะมีจันทันที่ทำมุมเอียงเป็นจั่วสองข้างที่มีระยะที่เท่าๆ กัน โดยที่ขื่อนั้นจะอยู่ในแนวราบ ซึ่งจะมีท่อนยึดดิ่งในระยะห่างที่เท่าๆ กัน และ มีท่อนยึดที่ทำหน้าที่ทแยงเอียงลงเข้าหาที่กึ่งกลางช่วง

(B) โครงถักแบบโฮว์ยกระดับ (C) โครงถักคอร์ดขนานตามแนวเอียง และ (D) โครงถักคอร์ดขนานตามแนวราบ
โครงถักลักษณะจำพวกนี้เรามักที่จะนิยมนำมาใช้ในการก่อสร้างโครงหลังคาที่มีช่วงความยาวของเสาที่มีค่ามากๆ เช่น โรงงาน โกดังเก็บสินค้า สนามกีฬา เป็นต้น

(E) โครงถักแบบเอียงต่างมุม
โครงถักแบบนี้เรามักที่จะนำมาใช้ก่อสร้างโครงหลังคาอาคารจำพวกตึกแถว โดยที่เรามักที่จะทำการเอียงชันทางด้านสั้นไปทางด้านหน้าแล้วทำการลาดเอียงเทลงด้านยาวไปทางด้านหลัง

(F) โครงถักแบบโค้ง
ในปัจจุบันเรามีความนิยมนำโครงถักแบบนี้มาใช้ในปัจจุบันเพิ่มมากยิ่งขึ้น เนื่องมาจากว่าเทคโนโลยีในการก่อสร้างในปัจจุบันนั้นมีการพัฒนาไปมาก เรามีการนำแผ่นเหล็กรีดร้อนมาใช้ทำการมุงบนโครงหลังคาซึ่งเราสามารถที่จะทำการดัดโค้งแผ่นหลังคานี้ได้

หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ผมได้นำมาฝากแก่เพื่อนๆ ทุกๆ ท่านในวันนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อย และ จนกว่าจะพบกันใหม่นะครับ